ภาวะท้องเสียกับการใช้ผงน้ำตาลเกลือแร่

คุณเคยรู้สึกแบบนี้หรือเปล่า ถ่ายอุจจาระปนมูกเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง/วัน ถ่ายอุจจาระเหลวกว่าปกติมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้ง/วัน ถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากอย่างน้อย 1 ครั้ง/วัน  เมื่อคุณมีอาการแบบนี้อย่างน้อย 1 อย่าง นั่นคือคุณเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะ “ท้องเสีย” แล้ว!!

ซึ่งอันตรายที่เกิดขึ้นจากภาวะท้องเสียนั้นจะเป็นการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ออกไปมากและรวดเร็ว จะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ อ่อนเพลีย ช็อก และเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้นการรักษาที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือ การทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป

หากคุณคิดที่จะดื่มเกลือแร่เพื่อทดแทนภาวะขาดน้ำ คุณรู้วิธีผสมผงน้ำตาลเกลือแร่แล้วหรือยัง ถ้ายังฟังทางนี้ โดยวิธีที่ดีที่สุด คือ อ่านฉลากหน้าซองทุกครั้งว่า ผสมสัดส่วนเท่าไหร่  เพราะโดยทั่วไป โออาร์เอส (ORS) ซองเล็ก 1 ซอง ผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว แต่เมื่อไรที่ไม่มีสารละลายน้ำตาลเกลือแร่จะทำอย่างไร? “การผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ที่บ้าน” ช่วยคุณได้ เพียงใช้ส่วนผสมดังนี้ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่นครึ่งช้อนชา ผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ขวดแม่โขงกลม หรือ ใช้น้ำตาลทราย 8 ช้อนชาและเกลือป่น 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ลิตร แค่นี้ก็จะได้ผงน้ำตาลเกลือแร่ทานอย่างง่ายๆ ได้แล้ว!!

แต่อย่างไรก็ตามการดื่ม “ผงน้ำตาลเกลือแร่” ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้องไม่ใช้น้ำร้อนในการละลาย เมื่อละลายแล้วให้ใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง โดยผงน้ำตาลเกลือแร่แต่ละชนิดมีส่วนประกอบ วิธีผสม และขนาดที่ให้รับประทานแตกต่างกัน จึงควรอ่านฉลากให้ละเอียดทุกครั้ง ควรระวังการใช้ในผู้ที่มีปัญหาโรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ส่วนการใช้ในเด็กให้ใช้ชนิดที่ระบุว่า “สำหรับเด็ก” เท่านั้นถึงจะเหมาะสมและปลอดภัย

ด้านการรับประทานอาหารในช่วงที่มีอาการท้องเสีย ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็ง อาหารที่ย่อยยากหรืออาหารที่มีกากมาก (เช่น ผัก ผลไม้) นมเหล้า และอาหารที่มีไขมันมาก ควรรับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลวที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำหวาน แทน

หากรักษาอาการท้องเสียด้วยตนเองแล้วไม่หายยังมีอาการเหล่านี้อยู่ อาทิ มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีภาวะขาดน้ำปานกลาง ถึงรุนแรง เช่น รู้สึกอ่อนเพลียมาก ตาลึกบุ๋ม ไม่ค่อยมีน้ำตา (ถ้าร้องไห้) ปากแห้ง กระหายน้ำมาก มีอาการท้องเสียนานเกิน 2 วัน แล้วในช่วงที่มีอาการท้องเสีย น้ำหนักตัวลดมากกว่า 5% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด มีเลือดปนออกมากับอุจจาระ หรือมีอาการอาเจียนร่วมกับอาการท้องเสีย และดื่มน้ำได้น้อยแต่ปัสสาวะมาก  ต้องรีบไปพบ “แพทย์” ทันที

แต่สำหรับในผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น เบาหวานห้ามรักษาอาการท้องเสียด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนแล้วยังเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ต้องรีบให้แพทย์ตรวจรักษาทันทีเพื่อป้องกันไว้ก่อนแก้นะค่ะ

 ที่มา : Team content www.thaihealth.or.th